Ref: 9 th Fitzpatrick dermatology

Figure from www.freepik.com

โรคผิวหนังเซิบเดิร์ม(Seborrheic Dermatitis)


โรคผิวหนังเซิบเดิร์ม (Seborrheic Dermatitis) เป็นภาวะที่ผิวหนังมีการอักเสบ เกิดเป็นผื่นแดงมีขุยหรือสะเก็ด มักจะเกิดขึ้นในบริเวณที่มีต่อมไขมันมาก เช่น หนังศีรษะ หว่างคิ้ว จมูก หลังหู


สาเหตุ


แม้ว่าจะยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่มีปัจจัยหลายอย่างที่มีส่วนร่วมในการเกิดโรค เช่น


  • การผลิตน้ำมันผิวหนังมากเกินไป
  • การเสียสมดุลของเชื้อยีสต์ในผิวหนัง (Malassezia spp.)
  • ปัจจัยทางพันธุกรรม
  • สภาพอากาศที่เย็นและแห้ง
  • ความเครียด
  • ระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอ


การวินิจฉัย


แพทย์จะวินิจฉัยโรคนี้จากการตรวจดูผิวหนังและประวัติการเกิดโรค บางครั้งอาจต้องใช้การขูดผิวหนังหรือตัวอย่างสะเก็ดผิวหนังเพื่อตรวจสอบเพิ่มเติม เพื่อยืนยันว่าไม่มีการติดเชื้อราหรือปัญหาอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกัน


การรักษา


  • ยาทาภายนอก ยาทาสเตียรอยด์เพื่อลดการอักเสบ ยากลุ่มฆ่าเชื้อรา เช่น คีโตโคนาโซล (ketoconazole)
  • ยาสระผม: ยาสระผมที่มีส่วนผสมของซาลิไซลิกแอซิด (salicylic acid), ซิงค์ ไพริไทโอน (zinc pyrithione), โคล ทาร์ (coal tar) หรือคีโตโคนาโซล (ketoconazole)
  • ยารับประทาน: ในกรณีที่โรครุนแรงและไม่ตอบสนองต่อการรักษา



โรคเซ็บเดิร์ม เป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่การรักษาและการดูแลที่เหมาะสมสามารถช่วยควบคุมอาการและป้องกันการเกิดซ้ำได้

Figure from www.freepik.com

หนังศีรษะชื้น VS. โรคเซ็บเดิร์มที่ศีรษะ ?


ผื่นแดงขุยที่หนังศีรษะ รังแค มักจะมีอาการคันและหนังศรีษะมันร่วมด้วย


ความชื้นหลังการสระผม


หลังการสระผม ความชื้นที่เหลืออยู่บนหนังศีรษะสามารถส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเชื้อยีสต์ Malassezia ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดโรค ความชื้นที่เหลืออยู่บนหนังศีรษะสามารถทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของเชื้อราและยีสต์ ทำให้โรคนี้มีอาการแย่ลงได้


วิธีการจัดการความชื้นหลังการสระผม


1. การใช้ผ้าเช็ดผม:

หลังจากการสระผม ควรใช้ผ้าขนหนูสะอาดเช็ดผมให้แห้งโดยการซับน้ำออกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หลีกเลี่ยงการขยี้หรือถูแรงๆ เนื่องจากอาจทำให้หนังศีรษะระคายเคือง

2. การใช้ไดร์เป่าผม:

การใช้ไดร์เป่าผมสามารถช่วยลดความชื้นบนหนังศีรษะได้ อย่างไรก็ตามควรใช้ไดร์เป่าผมในอุณหภูมิที่ไม่ร้อนเกินไป เพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคืองหรือทำให้หนังศีรษะแห้งเกินไป

3. การหลีกเลี่ยงการปล่อยให้ผมเปียกนานๆ:

หลีกเลี่ยงการทิ้งให้ผมเปียกนานๆ โดยเฉพาะก่อนนอน การนอนในขณะที่ผมยังเปียกสามารถเพิ่มความชื้นบนหนังศีรษะและสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับเชื้อยีสต์



ใช้แชมพูอะไรได้บ้าง

สามารถเลือกใช้แชมพูที่มีส่วนผสมของสารที่ช่วยลดเชื้อยีสต์ เช่น คีโตโคนาโซล (ketoconazole) ซิงค์ ไพริไทโอน (zinc pyrithione) หรือซาลิไซลิกแอซิด (salicylic acid)


การทำผมให้แห้งหลังสระผมเป็นสิ่งสำคัญในการควบคุมโรค ช่วยลดความชื้นและป้องกันการเจริญเติบโตของยีสต์ การใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมและการดูแลหนังศีรษะอย่างถูกต้องจะช่วยให้สามารถควบคุมอาการของโรค หากอาการยังไม่ดีขึ้นแนะนำพบแพทย์ผิวหนังเพื่อตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อแยกโรคอื่นที่อาการคล้ายคลึงกัน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy